เอ.ดี.กิจรุ่งเรือง

facebookadkrr

ร้าน เอ.ดี.กิจรุ่งเรือง จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น ฟิวส์ กระบอกฟิวส์ เบรกเกอร์ คอนแทคเตอร์ โอเวอร์โหลด รีเลย์ ตู้คอนโทรล และ อุปกรณ์สำหรับประกอบตู้คอนโทรล

สาระน่ารู้

FUSE ฟิวส์

ฟิวส์ (fuse) เป็นอุปกรณ์นิรภัยชนิดหนึ่งที่อยู่ในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีหน้าที่ป้องกันการลัดวงจรและการใช้กระแสเกินในวงจรไฟฟ้า ฟิวส์จะทำงานโดยการหลอมละลายเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านฟิวส์มีมากกว่าค่าที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้วงจรไฟฟ้าขาดและตัดกระแสไฟออกจากวงจร เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในวงจรได้รับความเสียหาย

ฟิวส์ทำจากโลหะผสมที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ เช่น ตะกั่วผสมดีบุก ทองแดงผสมนิกเกิล หรือเงินผสมทองแดง ซึ่งจะหลอมละลายเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านฟิวส์มีค่ามากกว่าค่าที่กำหนดไว้ โดยทั่วไปแล้ว ค่ากระแสไฟฟ้าที่กำหนดไว้สำหรับฟิวส์จะระบุไว้บนตัวฟิวส์ด้วย

ฟิวส์มีหลากหลายชนิด แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้

  • ฟิวส์แบบแท่ง (Bar fuse) เป็นฟิวส์ที่มีรูปร่างเป็นแท่งยาว นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น วงจรไฟฟ้าภายในอาคารหรือโรงงาน
  • ฟิวส์แบบหลอด (Cartridge fuse) เป็นฟิวส์ที่มีรูปร่างเป็นหลอด นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น วงจรไฟฟ้าภายในบ้านหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ฟิวส์แบบมินิ (Miniature fuse) เป็นฟิวส์ที่มีขนาดเล็ก นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กมาก เช่น วงจรไฟฟ้าภายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ฟิวส์เป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ฟิวส์ที่มีขนาดและค่ากระแสไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน และควรตรวจเช็คฟิวส์อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าฟิวส์ขาด ควรเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ทันที

 

Low Voltage Fuse ฟิวส์แรงดันต่ำแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ออกเป็น 4 ประเภท คือ..

NH FUSE Class gG,g
ใช้สำหรับ "ป้องกันกระแสเกิน" หรือ "การลัดวงจร" Short Circuit ซึ่งเหมาะกับงานป้องกันระบบไฟฟ้าทั่วไป โดยสามารถทนกระแสลัดวงจรได้สูงสุด 120kA

NH Fuse Class aM
ใช้สำหรับมอเตอร์ ซึ่งเหมาะสำหรับงาน "ป้องกันมอเตอร์" โดยเฉพาะ โดยสามารถทนกระแสลัดวงจรได้สูงสุด 120kA

uR Fuse หรือ Ultra Rapid Fuse
ใช้สำหรับ "ป้องกันอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ SCR, Transistor หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์" ซึ่งจะเป็นฟิวส์ชนิดขาดเร็ว Fast Acting Fuse สามารถทนกระแสลัดวงจรได้สูงสุดถึง 100kA

gPV Fuse
ใช้สำหรับแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ซึ่งเป็นแรงดัน DC สามารถทนกระแสลัดวงจรได้สูงสุดถึง 30 kA

 
 

เบรกเกอร์ (Circuit Breaker) เป็นอุปกรณ์นิรภัยชนิดหนึ่งที่อยู่ในระบบไฟฟ้า โดยมีหน้าที่ป้องกันการลัดวงจรและการใช้กระแสเกินในวงจรไฟฟ้า เบรกเกอร์จะทำงานโดยการตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเบรกเกอร์มีมากกว่าค่าที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในวงจรไม่ได้รับความเสียหาย

เบรกเกอร์แตกต่างจากฟิวส์ตรงที่เบรกเกอร์สามารถปิด-เปิดวงจรไฟฟ้าได้หลายครั้งโดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ ส่วนฟิวส์เมื่อหลอมละลายแล้วจะต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ทุกครั้ง

เบรกเกอร์มีหลากหลายชนิด แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้

* เบรกเกอร์แบบลูกย่อย (Miniature Circuit Breaker, MCB) เป็นเบรกเกอร์ที่มีขนาดเล็ก นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น วงจรไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคาร
* เบรกเกอร์แบบตู้ (Moulded Case Circuit Breaker, MCCB) เป็นเบรกเกอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเบรกเกอร์แบบลูกย่อย นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น วงจรไฟฟ้าภายในอาคารหรือโรงงาน
* เบรกเกอร์แบบอากาศ (Air Circuit Breaker, ACB) เป็นเบรกเกอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าแรงสูง เช่น วงจรไฟฟ้าที่จ่ายไฟให้กับเมือง

เบรกเกอร์เป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า ดังนั้น จึงควรเลือกใช้เบรกเกอร์ที่มีขนาดและค่ากระแสไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน และควรตรวจเช็คเบรกเกอร์อย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าเบรกเกอร์มีปัญหา ควรรีบแก้ไขหรือเปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ทันที

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการทำงานของเบรกเกอร์

* กรณีไฟฟ้าลัดวงจร เบรกเกอร์จะตัดวงจรไฟฟ้าทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ในวงจร ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือเพลิงไหม้ได้
* กรณีการใช้กระแสเกิน เบรกเกอร์จะตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเบรกเกอร์มีมากกว่าค่าที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายได้

เบรกเกอร์จึงเป็นอุปกรณ์นิรภัยที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า

   
 

คอนเทคเตอร์ (Contactor) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้ากำลัง โดยอาศัยอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยในการเปิด-ปิดหน้าสัมผัส คอนเทคเตอร์นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น วงจรไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมมอเตอร์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ

คอนเทคเตอร์มีส่วนประกอบหลัก ดังนี้

* ขดลวด (Coil) ทำหน้าที่สร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
* หน้าสัมผัส (Contact) ทำหน้าที่เชื่อมต่อหรือตัดวงจรไฟฟ้า
* สปริง (Spring) ทำหน้าที่คืนกลับหน้าสัมผัสให้อยู่ในตำแหน่งเดิม

การทำงานของคอนเทคเตอร์ มีดังนี้

1. เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
2. สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจะดึงให้แกนเหล็กเคลื่อนที่
3. แกนเหล็กจะดึงให้หน้าสัมผัสเคลื่อนที่ตามไปด้วย
4. เมื่อหน้าสัมผัสเคลื่อนที่ จะเชื่อมต่อหรือตัดวงจรไฟฟ้า

คอนเทคเตอร์มีหลากหลายชนิด แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้

* คอนเทคเตอร์แบบปกติเปิด (Normally Open, NO) เป็นคอนเทคเตอร์ที่หน้าสัมผัสจะอยู่ในตำแหน่งเปิด (ไม่เชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า) เมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด
* คอนเทคเตอร์แบบปกติปิด (Normally Closed, NC) เป็นคอนเทคเตอร์ที่หน้าสัมผัสจะอยู่ในตำแหน่งปิด (เชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า) เมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด
* คอนเทคเตอร์แบบสองทาง (Double Pole) เป็นคอนเทคเตอร์ที่มีหน้าสัมผัสสองทาง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อหรือตัดวงจรไฟฟ้าได้สองสาย
* คอนเทคเตอร์แบบสามทาง (Triple Pole) เป็นคอนเทคเตอร์ที่มีหน้าสัมผัสสามทาง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อหรือตัดวงจรไฟฟ้าได้สามสาย

คอนเทคเตอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการควบคุมวงจรไฟฟ้ากำลัง เช่น การเปิด-ปิดมอเตอร์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ดังนั้น จึงควรเลือกใช้คอนเทคเตอร์ที่มีขนาดและประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน

   
 

เทอร์มินอล (Terminal) คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับต่อสายไฟเข้าด้วยกัน โดยเทอร์มินอลจะมีขั้วต่อสำหรับต่อสายไฟหลายขั้ว โดยทั่วไปแล้ว เทอร์มินอลจะมีให้เลือกหลายขนาดและหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับจำนวนขั้วต่อและขนาดสายไฟที่ต้องการใช้งาน

เทอร์มินอลมีหลักการทำงานดังนี้

1. สายไฟจะถูกต่อเข้ากับขั้วต่อของเทอร์มินอล
2. เทอร์มินอลจะยึดสายไฟให้แน่นเพื่อป้องกันไม่ให้หลุดหรือหลวม

เทอร์มินอลเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อสายไฟเข้าด้วยกัน ดังนั้น จึงควรเลือกใช้เทอร์มินอลที่มีขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการติดตั้งเทอร์มินอล

1. ตัดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายไปยังวงจรไฟฟ้าที่ต้องการติดตั้งเทอร์มินอล
2. เลือกเทอร์มินอลที่มีขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งาน
3. ติดตั้งเทอร์มินอลเข้ากับแผงวงจรไฟฟ้า
4. ต่อสายไฟเข้ากับขั้วต่อของเทอร์มินอล
5. เปิดกระแสไฟฟ้าที่จ่ายไปยังวงจรไฟฟ้า

เทอร์มินอลมีหลากหลายประเภท แบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้

* เทอร์มินอลแบบเกลียว (Screw Terminal) เป็นเทอร์มินอลที่มีขั้วต่อแบบเกลียว ซึ่งใช้สำหรับต่อสายไฟที่มีขนาดใหญ่
* เทอร์มินอลแบบคีม (Crimp Terminal) เป็นเทอร์มินอลที่มีขั้วต่อแบบคีม ซึ่งใช้สำหรับต่อสายไฟที่มีขนาดเล็ก
* เทอร์มินอลแบบสกรูล็อก (Screwlock Terminal) เป็นเทอร์มินอลที่มีขั้วต่อแบบสกรูล็อก ซึ่งใช้สำหรับต่อสายไฟที่มีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก

เทอร์มินอลแบบเกลียว นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น วงจรไฟฟ้าที่ใช้ควบคุมมอเตอร์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เทอร์มินอลแบบคีม นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น วงจรไฟฟ้าภายในบ้านหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทอร์มินอลแบบสกรูล็อก นิยมใช้กับวงจรไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าสูงหรือต้องการความแน่นหนาเป็นพิเศษ

   
   

TIME SWITCH นาฬิกาตั้งเวลา

นาฬกาตั้งเวลา แบ่งได้ 2 ประเภท คือ แบบอนาล็อค (ANALOG TIME SWITCH) และ แบบดิจิตอล (DIGITAL TIME SWITCH)

แบบอนาล็อค (ANALOG TIME SWITCH)
เป็นนาฬิกาที่ออกแบบให้ สามารถติดตั้งได้ง่าย โดยการดันสลักตั้งเวลาออกมาด้านนอกตามเวลาที่ต้องการ มีสวิทช์ AUTO/MANUAL เพื่อเปิด/ปิด อัตโนมัติตามนาฬิกา หรือ เปิด/ปิด ด้วยมือ เหมาะสำหรับควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านหรือเครื่องใช้สำนักงาน

แบบดิจิตอล (DIGIGTAL TIME SWITCH)
เป็นนาฬิกาที่แสดงฝาแบบหน้าจอ LCD อ่านค่าได้ชัดเจน มีโปรแกรมตั้งเวลา หลายรูปแบบ สามารถตั้งโปรแกรมให้ทำงานเหมือนกันทุกวัน หรือ ทำงานวันใดวันหนึ่งได้ มีแบตเตอรี่สำรองเมื่อไฟดับ

ร้าน เอ.ดี.กิจรุ่งเรือง

โทรศัพท์ 084 136 0212 , 087 828 4485
LINE ID : adkrr.com
E-MAIL : ladapa.dewy@gmail.com
E-MAIL : sukit108@gmail.com

Copyright ©2023 by A.D. KIJ RUNG RUENG. All right reserved.